วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

HONDA MSX125

HONDA MSX125
 
รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ของฮอนด้า

รถคลัทช์มือ ล้อ 12 นิ้ว 125 ซีซี

Honda MSX 125
ความสบายสู่ความสปอร์ตที่เร้าใจและคล่องตัวในเมือง
เครื่องยนต์  125  ซีซี  มาพร้อมกับสมรรถนะที่เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI
ปลุกเร้าความสปอร์ตในเรือนร่างขนาดเล็กที่ออกแบบให้สปอร์ตทุกมุมมอง
ภายใต้คอนเซปต์ "Clutching Adrenaline ปล่อยมันส์ออกมา"
ด้วยการให้เส้นสายการออกแบบที่โดนใจในความสปอร์ตแบบเต็มพิกัดมาพร้อมโคมไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ และไฟท้าย LED
ล้อแม็กอลูมิเนียมขนาด 12 นิ้ว ที่มาพร้อมยางหน้ากว้างพิเศษให้ความคล่องตัว
ระบบกันสะเทือน ด้วยโช๊คหน้าแบบหัวกลับ และโช๊คเดี่ยวคล้ายสปอร์ตไบค์
ดิสก์เบรก ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง จุดเด่นที่สำคัญก็เป็นระบบคลัทช์มือให้ความมันส์เร้าใจเต็มพิกัดในทุกการขับขี่
Honda MSX 125 มี 3 สีให้เลือก คือ แดง ,ดำ และ ขาว
 





รหัสรุ่น -
MSX125D (TH)
เครื่องยนต์  -
ระะบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด PGM-Fi Fuel Injection 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
ปริมาตรกระบอกสูบ -
125 ซีซี
ระบบคลัทช์ -
คลัทช์มือ แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน
ระบบจุดระเบิด -
ระบบควบคุมการจุดระเบิดล่วงหน้าด้วยคอมพิวเตอร์
ระบบการติดเครื่องยนต์ -
สตาร์ทเท้าและสตาร์ทมือ
ระบบกันสะเทือนหน้า -
แบบหัวกลับ Upside-Down
ระบบกันสะเทือนหลัง -
โช้คหลังเดี่ยวแบบ โมโนโช้ค
ระบบห้ามล้อหน้า -
ดิสก์เบรก
ล้อ -
ล้อแม็กซ์ขนาด 12 นิ้ว
ยาง -
หน้ากว้าง แบบจุ๊บเลส

iPad 5 (ไอแพด 5) และ iPad mini




iPad 5 (ไอแพด 5) และ iPad mini 






   iPad 5 เปิดตัวของใหม่เร็วแรงทะลุพิกัดกับ iTAllNews.com  ใหม่ล่าสุดได้มีข่าวแจ้งเข้ามาว่า iPad 4 (iPad with Retina Display) จะกลายเป็นของเก่าไปอีกแล้ว เนื่องจากจะมีการเปิดตัว iPad 5 ใหม่ล่าสุด ทั้งบาง และก็เบากว่ารุ่นปัจจุบัน แถมยังมีการดีไซน์ใหม่เพิ่มการออกแบบที่ใช้กับ iPhone 5 เข้ามาอีกด้วย
    นอกจากนี้ iPad 5 (ไอแพด 5) จะมีการ ปรับปรุงสเปคครั้งใหญ่ เมื่อเทียบกับ iPad 4 (ไอแพด 4) ครับ โดยอย่างแรกที่คาดว่า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน นั่นก็คือ เทคโนโลยีหน้าจอ จะเป็นแบบ IGZO ที่นอกจากจะช่วยทำให้หน้าจอ มีความบางลงแล้ว ยังช่วยให้หน้าจอสว่างมากขึ้นกว่าเดิม แต่ประหยัดพลังงาน
   ส่วนดีไซน์ของ iPad 5 (ไอแพด 5) ทาง Jeremy เผยว่า จะมีการออกแบบคล้ายกับ iPad mini (ไอแพด มินิ) และภาพ mock up ด้านบนนั้น ทำให้สันนิษฐานว่า iPad 5 (ไอแพด 5) คงจะมีรูปร่างในลักษณะดังกล่าวอีกด้วย


iPhone 5S ไอโฟน 5S

iPhone 5S ไอโฟน 5S







      รายงานข่าวจากเว็บไซต์ iLounge ได้เผยข้อมูล เกี่ยวกับ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) โดยอ้างว่า แหล่งข่าวดังกล่าว เป็นแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ครับว่า iPhone 5s (ไอโฟน 5s) นั้น จะปรับปรุงกล้องด้านหลังใหม่ จากเดิมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) มาเป็นความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ส่วนเซนเซอร์นั้น ยังคงเป็นของโซนี่เหมือนเดิมครับ
นอกจากนี้ ไฟแฟลชยังได้รับการอัพเกรดใหม่ รวมไปถึงระบบประมวลผล หรือ ซีพียู ด้วยเช่นเดียวกันครับ ซึ่งโค้ดเนมของ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) ตัวต้นแบบ ก็คือ N51 และ N53
ส่วนกระบวนการผลิต iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น แหล่งข่าวเชื่อว่า ยังคงไม่เดินสายการผลิตอีกนานหลายเดือน แต่คาดว่า น่าจะเปิดตัวราวๆ เดือนกรกฏาคมนี้ครับ - macrumors.com


iPhone 5S (ไอโฟน 5S) มีระบบ สแกนลายนิ้วมือ ?
     Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI Securities ที่เคยวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของ Apple ได้ถูกต้องกว่า 70% ได้ออกมาเผยว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) อาจจะมี ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint sensor) ครับ หลังจากที่ Apple ได้เข้าซื้อบริษัท AuthenTec ที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี สแกนลายนิ้วมือ รวมไปถึงบริษัท Microlatch ที่ Apple เพิ่งเซ็นสัญญาเมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน
นอกจากนี้ Ming-Chi Kuo ยังเผยว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) จะมีการปรับปรุงในเรื่องของ กล้อง และชิปเซ็ทครับ คาดว่า น่าจะใช้ Apple A7 เริ่มกระบวนการผลิตได้ในเดือนมีนาคมนี้ และเปิดตัวได้ราวๆ เดือนมิถุนายน - กรกฏาคมครับ - cultofmac.com
ไอโฟน 5S (iPhone 5S) เริ่มกระบวนการผลิตเดือนมีนาคม เปิดตัว มิถุนายน - กรกฏาคม


Peter Misek นักวิเคราะห์ชื่อดังจากบริษัท Jeffries ได้ออกมาเผยผลการสำรวจใหม่ครับว่า ไอโฟน 5S (iPhone 5S) นั้น จะเริ่มกระบวนการผลิตในเดือนมีนาคมนี้ และจะเปิดตัวได้ราวๆ เดือนมิถุนายน - กรกฏาคมครับ
นอกจากนี้ Peter Misek ยังได้อ้างว่า ได้เห็น ไอโฟน 5S (iPhone 5S) รุ่นต้นแบบ ทั้งหมด 2 รุ่นครับ และคาดว่า อีกรุ่นคงจะเป็น iPhone ต้นทุนต่ำ แบบเดียวกับที่ Apple เปิดตัว iPad mini (ไอแพด มินิ) นั่นเอง และไม่น่าจะใช่ iPhone ราคาถูก ที่เคยตกเป็นข่าวก่อนหน้านั้น ซึ่งสเปคของ iPhone ต้นทุนต่ำนี้ คาดว่า น่าจะมีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ไม่ใช่ Retina display ไม่รองรับ LTE และตัวเครื่องเป็นโพลีคาร์บอเนตครับ
สำหรับข่าวที่ Apple ลดกำลังการผลิต iPhone 5 (ไอโฟน 5) ลงนั้น ทาง Peter Misek เชื่อว่า เป็นความจริงครับ สาเหตุก็เป็นเพราะ ความต้องการซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) น้อยกว่าที่คาดการณ์ ประกอบกับ ไอโฟน 5S (iPhone 5S) จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ทำให้ Apple เน้นไปที่การผลิต ไอโฟน 5S (iPhone 5S) บ้างแล้วนั่นเอง - macrumors.com
iPhone 5S (ไอโฟน 5S) มาพร้อมกับหน้าจอแบบใหม่ Touch-on-Display

     แม้จะมี ข่าวลือ เกี่ยวกับ iPhone 5S ออกมาว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น จะมีให้เลือกหลายสีสัน เหมือนกับ iPod Touch Gen 5 และมีให้เลือกหลายขนาดหน้าจอนั้น ล่าสุด ได้มีข้อมูลใหม่ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่อีกด้วยครับ
จริงๆ แล้ว Apple ได้เปลี่ยนเทคโนโลยีหน้าจอบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) มาเป็นแบบ in-cell ซึ่งส่งผลให้ตัวเครื่อง iPhone 5(ไอโฟน 5) มีความบางลงกว่าเดิมอยู่แล้ว แต่หน้าจอแบบ in-cell นั้น ยังคงเกิดปัญหาบางอย่าง ในการสัมผัสบนหน้าจอครับ โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้งาน เลื่อนหน้าจอขึ้นลงแบบเร็วๆ ทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสในบางส่วนได้ และทำให้หน้าจอค้างขึ้นมา ซึ่งในรายงานข่าว ได้เผยว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น จะใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่มีชื่อว่า Touch-on-Display ครับ ซึ่งจะมาช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้เป็นอย่างด
โดยหน้าจอแบบ Touch-on-Display นั้น ผลิตโดยบริษัท Chimei Innolux และได้เริ่มส่งตัวอย่างหน้าจอ ให้กับทาง Apple ได้ทดสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) อาจจะใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ ที่นอกจากจะช่วยลดปัญหาการกระตุกขณะใช้งานแล้ว อาจจะทำให้ตัวเครื่องบางลงได้กว่าแต่ก่อนอีกด้วยครับ - cultofmac.com
iPhone 5S (ไอโฟน 5S) มาพร้อมกับตัวเครื่องหลากสี เหมือน iPod Touch

      หลังจากที่มีกระแสข่าวของ iPhone 6 (ไอโฟน 6) ออกมาเกาะกระแสของ ไอโฟนรุ่นถัดไป ออกมา แต่สุดท้าย ข่าวคราวเคลื่อนไหวของไอโฟนรุ่นถัดไป ที่นักวิเคราะห์หลายท่านเชื่อว่า น่าจะใช้ชื่อ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องครับ หลังจากที่เดือนที่ผ่านมา Peter Misek นักวิเคราะห์จากสถาบัน Jeffries ได้ออกมาเผยว่า ไอโฟนรุ่นถัดไป นั้น น่าจะมีให้เลือกถึง 6-8 สี และเปิดตัวราวๆ กลางปีนี้ ล่าสุด ได้มีนักวิเคราะห์อีกท่าน ออกมายืนยันเช่นกัน
โดยนักวิเคราะห์คนดังกล่าว มีชื่อว่า Brian White ครับ ซึ่งเค้าเชื่อว่า ไอโฟนรุ่นถัดไป นั้น จะมีทางเลือกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ไม่เพียงแค่จะมีหลายสีให้เลือกเท่านั้น แต่ยังมีหลายขนาดหน้าจอให้เลือกอีกด้วย และคาดว่า น่าจะเปิดตัวประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ ซึ่งกระบวนการผลิต iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น น่าจะเริ่มได้ราวๆ เดือนมีนาคมนี้
นอกจากนี้ Brian White ยังเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ตัวเค้าคิดว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) น่าจะมีหลายสีนั้น เป็นเพราะ iPod Touch Gen 5 ที่เปิดตลาดด้วยหลากหลายสีสันนั่นเอง ซึ่ง Brian White เชื่อว่า นี่เป็นการชิมลางตลาดก่อนว่า จะมีกระแสตอบรับกลับมาอย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าฟีตแบคดี ก็เป็นไปได้ที่ iPad รุ่นถัดไป จะมีหลายสีด้วยเช่นกันครับ
อย่างไรก็ดี คำสันนิษฐานของนักวิเคราะห์คนดังกล่าว ยังไม่สามารถ ฟันธง ได้อย่างมั่นใจว่า iPhone 5S (ไอโฟน 5S) จะมีหลายสี มีหลายขนาดหน้าจอ และเปิดตัวกลางปีนี้หรือไม่ ซึ่งความคืบหน้าของ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น เร็วๆ นี้น่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมที่มากขึ้นครับ - macrumors.com

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

Samsung GALAXY SIII mini


samsung galaxy s3 mini
Samsung GALAXY SIII mini


          หลังจากที่มีข่าวลือและภาพหลุดต่าง ๆ ออกมามากมาย ล่าสุดซัมซุงก็สยบทุกข่าวลือด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ มาพร้อมชื่อ Samsung GALAXY SIII mini เป็นแอนดรอยด์โฟนรุ่นเล็กที่ย่อขนาดลงมาจาก Samsung GALAXY SIII รุ่นพี่ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของ GALAXY SIII mini ไม่แตกต่างจาก GALAXY SIII มากนัก มีการเปลี่ยนตำแหน่งของกล้องด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนตัวเครื่องก็มีความหนากว่านิดหน่อย ลดสเปคและหน้าจอให้มีขนาดเล็กลง ทำให้พกพาสะดวกมากขึ้น 

samsung galaxy s3 mini
Samsung GALAXY SIII mini

          สำหรับ Samsung GALAXY SIII mini ทางซัมซุงออกมาเพื่อเจาะตลาดผู้ใช้งานระดับกลางจนถึงระดับล่าง ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปคไม่สูงมากแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพการทำงานด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน ด้านสเปค GALAXY SIII mini ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 Jelly Bean ลดขนาดหน้าจอเหลือเพียง 4 นิ้ว, ซีพียูแบบ Dual-Core ความเร็ว 1GHz, แรม 1GB พร้อมกล้องถ่ายภาพ 5 ล้านพิกเซลและกล้องด้านหน้าระดับ VGA  ส่วนสเปคอื่น ๆ มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง มาติดตามกันเลย
samsung galaxy s3 mini
Samsung GALAXY SIII mini

          สเปคเบื้องต้น Samsung GALAXY SIII mini
  ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 Jelly Bean
  ซีพียู Dual-Core ความเร็ว 1GHz, แรม 1GB
  หน่วยความจำภายในเครื่อง 8GB และ 16GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32GB
  หน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 4 นิ้วพร้อมความละเอียด WVGA 800x400 พิกเซล
  กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัสพร้อมไฟแฟลช  และกล้องหน้าแบบ VGA
  รองรับการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 720p
  รองรับเครือข่าย 3G HSPA 900/1900/2100MHz และ 2G/EDGE/GPRS 850/900/1800/1900MHz
  เชื่อมต่อ Wi-Fi, GPS/GLONASS, Bluetooth 4.0 และ NFC
  มีวิทยุ FM ในตัว
  ขนาดตัวเครื่อง 121.55 x 63 x 9.85 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 111.5 กรัม
  แบตเตอรี่ 1,500mAh
  ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีน้ำเงิน
ราคาปัจจุบัน : 10,900 บาท

SAMSUNG ATIV S


Samsung ATIV S - ซัมซุง อทีฟ เอส


Samsung ATIV S

ขนาด : 137.2 x 70.5 x 8.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 135.00 กรัม
Samsung ATIV S
Samsung ATIV S



Samsung
ข้อมูลเครือข่าย (Network)
ข้อมูลตัวเครื่อง

Samsung ATIV S
 
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU)
ระบบเชื่อมต่อ
ใช้งานอินเตอร์เน็ต
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
แอพพลิเคชั่นมาตรฐาน
การโทร และ ฟังก์ชั่นพื้นฐาน
การใช้งานของแบตเตอรี่

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ลัมโบร์กีนี



โลโก้ "กระทิงเปลี่ยว" 




ประวัติ Lamborghini


ใครจะทราบบ้างว่าแท้จริงแล้ว หนึ่งรถสปอร์ตที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถระดับซุปเป อร์คาร์อย่าง "แลมเบอร์กินี" 
นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากความไม่พอใจเล็กๆ ของใครคนหนึ่งที่นำไปสู่การพัฒนาจนกลายมาเป็นรถสปอร์ต
ชื่อก้องโลกในปัจจุบัน ซึ่งใครคนนั้น มีนามว่า "เฟอรุชชิโอ แลมเบอร์กินี"

เฟอรุชชิโอ แลมเบอร์กินี คือชื่อของผู้สร้างตำนานบทใหม่ของรถสปอร์ตระดับซุปเป อร์คาร์ เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2459 
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ 
ทางเหนือของอิตาลี เฟอรุชชิโอให้ความสนใจ ในเรื่องเครื่องยนต์กลไกเป็นอย่างมากตั้งแต่ในวัยเด็ก 
เมื่อโตขึ้นได้เข้าเรียนในวิทยาลัย อุตสาหกรรม ที่เมืองโบโลญญ่าหลังจากที่ได้ศึกษาเป็นเวลาหลายปีก็ 
สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ ทางด้านอุตสาหกรรม

เฟอรุชชิโอ เริ่มทำงานในอู่ซ่อมเครื่องยนต์ เมื่อช่วงต้นอายุยี่สิบของเขานั้น สงครามโลกครั้งที่สองได้เกิดขึ้น 
และเขาได้เข้าร่วมรับใช้ชาติด้วยการทำงานที่ฐานทัพอา กาศอิตาลีที่เมือง Rhodes โดยทำหน้าที่ซ่อมแซมยวดยาน 
หลังจากที่ สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เขาถูกบังคับให้ทำงานดังกล่าวด้วยการซ่อมยวดยานของฝ่ายสัมพันธมิตร
ต่อไปอีกจนถึงปี พ.ศ. 2489 ในที่สุดเขาก็ได้กลับบ้าน และได้เริ่มต้นซ่อมแซมรถแทรกเตอร์ของอิตาลี 
ที่ยังคงใช้อะไหล่จากยวดยานของทหาร และนี่เองคือ จุดเริ่มต้นในการตั้งโรงงานแทรกเตอร์ ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ
มากที่สุดในฐานะนักธุรกิจ เฟอรุชชิโอเป็นคนที่เข้าใจชีวิต และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และเป็นเพราะว่าเขาให้ความ
สนใจในเรื่องยานยนต์โดยเฉพาะประเภทที่มีความเร็วสูง 
เขาจึงซื้อ เฟอร์รารีหลายคัน 

ในช่วงเวลานั้น การสร้างรถเฟอร์รารี สำหรับถนนปกตินั้นทำการผลิตกันแบบขอไปที เจ้าของรถเฟอร์รารีหลายคนไม่พอใจในรถของตนเอง 
แต่ก็ไม่กล้าที่จะร้องเรียน เพราะกลัวว่าตนเองอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อรถได้อ ีก และจากสาเหตุของการให้บริการหลังการขาย 
ที่ย่ำแย่เนื่องจาก เอนโซ เฟอร์รารี นั้นได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจทั้งหมดของเขาไปที่รายการแข่งรถ ส่วนรถที่ใช้สำหรับขับขี่บนถนนถูกผลิตขึ้นเพื่อนำเงิน
ที่ได้ไปพัฒนารถแข่งของเขาเท่านั้น 

ในช่วงต้นของทศวรรษที่ 60 เฟอรุชชิโอ แลมเบอร์กินี ถอย เฟอร์รารี 250 GT ถึงกระนั้นเขาก็ต้องส่งรถคันดังกล่าวเข้า 
ซ่อมหลายครั้งและดูเหมือนว่ามันไม่เคยได้รับการซ่อมแ ซมได้อย่างถูกต้องเลย และนี่คือปฐมเหตุในการเริ่มต้น 
ตำนานของ แลมเบอร์กินี 

ครั้งหนึ่ง เมื่อเฟอรุชชิโอ แลมเบอร์กินี ได้รับรถเฟอร์รารีของเขากลับมาจากโรงงาน หลังจากส่งไปซ่อมคลัชท์
 แต่ดูเหมือนว่า โรงงานนั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น เฟอรุชชิโอ จึงไปเยี่ยมเยียน เอนโซ เฟอร์รารี
ด้วยตัวของเขาเอง ณ โรงงานของเฟอร์รารี และบอกแก่ เอนโซ เฟอร์รารี ในเรื่องที่เขารู้สึกเกี่ยวกับ
ตัวของเอนโซและรถอันแสนย่ำแย่ เอนโซ ได้ตอกกลับเฟอรุชชิโอว่า เป็นเพียงแค่คนบ้านนอกที่ไม่มีความรู้
อะไรเลยในเรื่อ งที่เกี่ยวกับรถสปอร์ต ต่างกับเขาที่มีอยู่เต็ม ในสายเลือด 

หลังจากการโต้เถียงครั้งนั้น เฟอรุชชิโอ แลมเบอร์กินี ก็ตัดสินใจว่าเขาจะต้องโต้ตอบเอนโซ
ให้เจ็บแสบที่สุดด้วยการสร้างรถของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงได้ว่าจ้างบุคลากรที่ดีที่สุดที่สามารถ หาได้และเริ่มต้น
การผจญภัยของเขาด้วยการสร้าง GT รถที่ สมบูรณ์แบบ และไม่ใช่แค่เขาสร้างมันได้ดีกว่าและเร็วกว่า
 แต่เขายังต้องการที่จะรับฟังลูกค้าพร้อมกับยินดีช่วย เหลือลูกค้าของเขาหากเกิดปัญหาจากรถที่สร้างขึ้น 

เฟอรุชชิโอ ได้เริ่มต้นด้วยการสร้างโรงงานใหม่ และตั้งบริษัท “แลมเบอร์กินี ออโตโมบิลี” 
ซึ่งห่างจากโรงงานของเฟอร์รารีเพียง 15 กม. เท่านั้น 




ในมุมหนึ่งของโรงงานแทรกเตอร์ รถแลมเบอร์กินีถูกสร้างขึ้น ก่อนที่โรงงานสร้างรถยนต์แห่งใหม่จะ พร้อมเสร็จ เขาใช้เวลาทุกนาทีในการพัฒนารถของเขาด้วยตนเอง เฟอรุชชิโอ ทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกจ้าง เพราะว่า เขาต้องการมีส่วนร่วมในทุกๆ ด้าน กับการพัฒนารถคันนี้ และบ่อยครั้งที่อยู่เป็น คนสุดท้ายเพื่อคอยปิดสวิชท์ไฟในโรงงานปลายเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2506 แลมเบอร์กินี 350 GTV คันแรกก็เสร็จสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม รถดังกล่าวก็ยังเป็นเพียงรถต้นแบบ และ ผลิตภัณฑ์คันแรกนั้นยังมาไม่ถึงจนกระทั่งเดือนมีนาคม 2507 ด้วย 350 GT ที่ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกว่าเฟอร์รารีนั้นสามารถที่ จะถูกปราบลงได้เช่นกัน และนี้คือเรื่องราวทั้งหมดในการเริ่มต้นจ้าวแห่ง ตำนานของกระทิงเปลี่ยว


ข้อมูลจาก บ.นิชคาร์ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ แลมเบอร์กินี อย่างเป็นทางการในเมืองไทย
cradit http://www.hydrocarbon101.com/forums/showthread.php?t=1324


ลัมโบร์กินี LAMBORGHINE


ลัมโปร์กินี เป็นชื่อของรถสปอร์ทที่ปรากฎตัวออกสู่สายตาโลกเมื่อประมาณสามทศวรรษที่ผ่าน มานี้เอง แต่ชื่อเสียงและกิตติคุณของรถสปอร์ทพันธ์อิตาลียี่ห้อนี้ กลับโด่งดังไม่แพ้รถสปอร์ทเก่าแก่อย่าง อัลฟา-โรเมโอ เฟร์รารี หรือ มาเซราตีนั่นเลย สัญลักษณ์ของ ลัมโบร์กินี เป็นรูปวัวกระทิง บรรจุอยู่ในโล่ โดยมีแถบชื่อ LAMBORGHINI พาดทับอยู่ด้านบน การที่ลัมโบร์กินีใช้รูปวัวกระทิงเป็นสัญสักษณ์ก็เนื่องจากสัตว์ชนิดนี้เป็น สัญลักษณ์ปีเกิดของผู้ก่อตั้งกิจการนั่นเอง เฟร์รุชชิโอ สัมโบร์กินี (FERRUCCIO LAMBORGHINE) ชาวอิตาลีผู้ก่อร่างสร้างตัวจากเงินในกระเป๋าไม่กี่หมื่นลีร์ จนกลายเป็นนักธุรกิจระดับ “มัลติมิลเลียนแนร์” ผู้มีกิจการใหญ่โตในวงการอุต-สาหกรรมรถแทรคเตอร์และเครื่องปรับอากาศของ เมืองมะกะโลนี ได้ควักเงินทุนก้อนหนึ่งก่อตั้งบริษัท ออโตโมบิลี เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี เอศพีเอ (AUTOMOBILI FERRUCCIO LAMBORGHINI S.p.A.) ขึ้นเมื่อปี 1962 โดยที่จุดมุ่งหมายของบริษัทเกิดใหม่นี้ก็คือ ผลิตรถสปอร์ทชั้นยอดออกขายแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่างเฟร์รารี ที่เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินีเคยเป็นลูกค้ามาก่อน เล่าขานสืบต่อกันมาว่า มูลเหตุที่ทำให้ มร.ลัมโบร์กินี คิดจะผลิตรถขึ้นเองก็เพราะไม่พอใจในบริการที่ได้รับจากเฟร์ารรีนั่นเอง และข้อได้เปรียบของลัมโบร์กินีก็คือ ก่อนที่จะหันมาเอาดีกับการผลิตรถสปอร์ทระดับ”ซูเพอร์คาร์” ลัมโบร์กินีมีโรงงานผลิตรถแทรคเตอร์อยู่แล้ว


ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ อาจต้องใช้เวลาแรมปีในการสร้างสมเกียรติยศชื่อเสียง แต่สำหรับลัมโบร์กินีที่เริ่มต้นกิจการด้วยคำขวัญ “มาหาลัมโบร์กินี ถ้าต้องการรถที่ดีที่สุดในโลก” ความสำเร็จเกิดขึ้นในเวลาชั่วคืน รถสปอร์ทแทบทุกรุ่นที่ลัมโบร์กินีผลิตออกสู่ตลาด ได้รับความนิยมจากนักเลงรถสปอร์ท “รายได้สูง รสนิยมสูง” จนผลิตขายแทบไม่ทัน โดยเฉพาะรถ ลัมโบร์กินี มีอูรา (LAMBORGHINI MIURA) ซึ่งปรากฎตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมรถยนต์ตูรินเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1965 และออกจำหน่ายสองปีหลังจากนั้น นับเป็นรถที่สร้างชื่อเสียงเกียรติคุณให้แก่ผู้ผลิตรถสปอร์ทรายนี้ยิ่งกว่ารถรุ่นอื่น ๆ ลัมโบร์กินีใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สามารถก้าวขึ้นมาเทียมบ่าเทียมไหล่กับเจ้ายุทธจักรรถสปอร์ท อย่างเฟร์รารีได้สำเร็จ ในเดือนมิถุนายน 1981 ลัมโบร์กินีเปลี่ยนชื่อกิจการเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ นูโอวา ออโตโมบิสี เฟร์รุขขิโอ ลัมโบร์กินี เอสพีเอ (NUOVA AUTOMOBILI FERRUCCIO LAMBORGHINI S.p.A.)

ปัญหาด้านการเงินบีบบังคับให้ผู้ผลิตรถสปอร์รายนี้ต้องเปลี่ยนมือเจ้าของ กิจการหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายคื่อในปี 1987 ลัมโบร์กินีก็มีสภาพเป็นปลาเล็กที่ถูกกลืนกินโดยปาใหญ่ โดยยอมขายกิจการทั้งหมดให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา คือ ไครสเลอร์ คอร์พอเรชัน ในรอบสามทศวรรษที่ผ่านมาลัมโบร์กินีผลิตรถสปอร์ทออกจำหน่ายในตลาดรวมทั้ง สิ้น 13 รุ่น รุ่นที่ผลิตมากที่สุด คือ ลัมโบร์กินี คูนทาช (LAMBORGHINI COUNTACH) รถสปอร์ทระดับ “ซูเปอร์คาร์” ที่นักเลงรถทั่วโลกรู้จักกันดี ปัจจุบัน ลัมโบร์กินีมีกำลังผลิตประมาณ 400 คันต่อปี รถที่ผลิตจำหน่ายในขณะนี้มีอยุ่เพียงรุ่นเดียว คือ ลัมโบร์กินี ดิอาบโล (LAMBORGHINI BIABLO) ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดารถตลาดที่เร็วที่สุดในปัจจุบันเพราะสามารถวิ่งได้เร็ว กว่า 325 กม./ชม.นั้นเทียว

ชื่อบริษัท: นูโอวา ออโตโมบิลี เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี

NUOVA AUTOMOBILI FERRUCCIO LAMBORGHINI S.p.A.
ก่อตั้ง: ค.ศ. 1962
สำนักงานใหญ่: VIA MODENA 12, 40019 SANT’ AGATA
BOLOGNESE, BOLOGNA, ITALY
เว็บไซต์: www.lamborghini.com

รถรุ่นสำคัญ:

ลัมโบร์กินี 350 จีที (1963)

ลัมโบร์กินี 400 จีที (1966)
ลัมโบร์กินี มิอูรา (1967)
ลัมโบร์กินี เอสปาดา (1968)
ลัมโบร์กินี ไอส์เบโร (1968)
ลัมโบร์กินี ฮารามา (1970)
ลัมโบร์กินี อีร์ราโก (1971)
ลัมโบร์กินี คูนทาช (1974)
ลัมโบร์กินี คูนทาช เอส (1978)
ลัมโบร์กินี จัลปา (1982)
ลัมโบร์กินี คูนทาช 500 ควาตโดรวาลโวเล (1985)
ลัมโบร์กินี คูนทาช ทเวนติ-ฟิฟธ์
แอนนีเวอร์ซารี (1988)
ลัมโบร์กินี ดิอาบโล (1990)
ลัมโบร์กินี ดิอาบโล (LAMBORGHINE DIABLO)